รีวิวซีรี่ย์ Halo (2022) “สร้างจากวิดิโอเกมส์ชื่อดัง”

พบกับซีรี่ย์สุดมันส์ที่สร้างจากวิดิโอเกมส์ชื่อดัง เมื่อ มนุษย์ต่างดาวคุกคามการดำรงอยู่ของมนุษย์ในการประลองครั้งยิ่งใหญ่ในศตวรรษที่ 26 เรื่องราวต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น ติดตามได้ใน Halo (2022)

รีวิว

เรียกได้ว่าถึงตอนนี้อะไรก็เป็นไปได้แล้วล่ะสำหรับเกม Halo Infinite และหลังจากนั่งรอ นอนรอ ยืนรอมานานถึง 6 ปี ในที่สุดตัวเกมเวอร์ชันสมบูรณ์ที่มีทั้งโหมดเล่นคนเดียวและหลายคนก็ออกมาให้ประจักษ์กับสายตาเกมเมอร์กันซะที ว่าแต่การกลับมาของ Master Chief ครั้งนี้จะยิ่งใหญ่อลังการณ์ เปิดทุกความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ให้แก่ซีรี่ส์นี้อีกรอบได้มั้ยนะ? เพราะแกเล่นหายไปนานจนมนต์ขลังของวงแหวน Halo เริ่มเสื่อมคลาย ที่สำคัญกว่าคือ Chief จะเอาใจแฟนเกมทั้งหน้าเก่าหน้าใหม่ที่มีความต้องการระดับอนันต์ได้มั้ยหนอ?

พนันได้เลยว่าแฟนเกม Halo รุ่นเหนียวแน่นหนึบหลายคนจะต้องแอบกังวลตั้งแต่ตอนที่ทีม 343 เค้าเปิดตัวว่าเกมภาคนี้จะมีความเป็นเกมแนว Open-world ปนอยู่ด้วย ก็จะไม่ให้แอบนอยได้ไง เพราะตลอดช่วงอายุ 20 ปีของซีรี่ส์นี้ Halo ยึดขนบของเกมเดินหน้ายิงฝ่าด่านแบบดั้งเดิมมาตลอด แถมเกือบทุกภาคก็เล่นได้สนุกมากในแบบของมันอยู่แล้ว จู่ ๆ จะเอาแผนที่แบบเปิดกว้างมาโปะเข้าไปในวงแหวน Halo นี่มันถือว่าลบหลู่กันชัด ๆ! แต่ใจเย็นก่อนโยม… ฉากตะลุยด่านยังไม่ได้สูญหายไปไหน อันที่จริงด่านแคมเปญเกือบ 1 ใน 3 ของ Halo Infinite ก็ยังคงเป็นฉากตรงไปตรงมาเหมือนเก่า​ แล้วคุณจะเชื่อมั้ยถ้าผมบอกว่าฉาก Halo แบบเ​ปิดกว้างที่เพิ่มเข้ามามันดันเป็นเหมือนกับซอสลับที่เข้ากับเกมเพลย์ของ Halo เป็นเนื้อเดียว ราวกับการเอากล้วยไปกินคู่กับช็อคโกแลต หรือเอามะม่วงไปกินคู่กับน้ำปลาหวาน นอกจากนี้ มันยังได้เข้ามาช่วยปฏิวัติประสบการณ์การเล่นโหมดแคมเปญของ Halo ให้สนุกขึ้นไปอีกขั้น อันนี้พูดจากใจเกมเมอร์ที่เคยเล่นเกม Halo มาทุกภาคเลยว่าฉาก Open-world ได้เข้ามาช่วยผลักดัน Halo ให้หลุดจากกรอบเดิม ๆ ได้ซะที

ตัวอย่าง