รีวิว INTO THE WILD : เข้าป่าหาชีวิต”หนังจากเรื่องจริงของคริส”

ภาพยนต์สร้างขึ้นจากเรื่องจริงของชีวิต คริสโตเฟอร์ แมคแคนเดิลส์ ที่เบื่อชีวิตในเมืองหลวง เขาจึงตัดสินใจเดินทางออกไปผจญภัยในป่ากว้างใหญ่ที่ที่เค้าฝันว่าจะได้เจอธรรมชาติอันแสนสวยงาม

คริสโตเฟอร์ แมคแคนเดิลส์ ที่ได้เรียบจบมหาลัยมาได้ไม่นาน แต่ด้วยความติสท์ และไม่อยากอยู่ในสังคมที่ต้องทำงานไปวันๆ เคา้จึงได้ออกไปตามหาชีวิตที่อลาสกา ที่ที่เค้าฝันว่าจะได้เจอธรรมชาติอันแสนสวยงาม ด้วยการเดินทางทั้งแสนจะลำบาก และมีอุปสรรคอีกมากมาย พร้อมกับเรื่องราวน่าตื่นเต้น ที่ตัวเค้าเองต้องเจออยู่ตลอดเส้นทาง การที่จะออกไปหาความหมายของชีวิต เค้าจะทำได้หรือไม่ หรือว่าทั้งหมดที่ทำมาเป็นความคิดที่ผิดพลาด อยากรู้ต้องไปติดตามดูกันได้ในหนังน่าดู Netflix

คริสมีปมเกี่ยวกับพ่อแม่ ช่วงแรกของหนังคริสเล่าว่าพ่อแม่ปลงใจอยู่ร่วมกันตั้งแต่เรียนจบ โดยที่ทั้งสองไม่รู้เลยว่ากำลังทำร้ายอีกชีวิตที่กำลังเกิดมา คริสพยายามสื่อว่าพ่อแม่เคยรู้บ้างหรือไม่ว่ากำลังทำร้ายคริส แต่เขาก็ทิ้งท้ายติดตลกว่าถึงห้ามให้พ่อแม่คบกันได้ก็ไม่ทำเพราะอยากมีชีวิต ช่วงท้ายของเรื่องหนังกลับเล่าความจริงว่าแม่ของคริสเป็นชู้โดยไม่รู้ตัว พ่อมีภรรยาตามกฎหมายกับลูกชายหนึ่งคนและพ่อได้ตัดสินใจทิ้งภรรยากับลูกเลือกครอบครัวของคริสซึ่งนี้เป็นปมสำหรับคริส เขาไม่ได้เสียใจที่พ่อมีภรรยามาก่อนแต่เขาเสียใจที่พ่อโกหกแม่กับเขา รวมถึงไม่สนใจลูกอีกคนที่เกิดจากตัวเอง

พ่อและแม่ของคริสเป็นบุคคลที่มีความสามารถทำให้พวกเขามีรายได้จำนวนมาก เมื่อเงินเข้ามามีอิทธิพลในชีวิตความสุขที่เคยใช้เวลาร่วมกันกับคริสและน้องสาวจึงลดน้อยลง คริสจึงเกลียดเงินทองกับทรัพย์สิน เพราะเขามองว่าเป็นนามธรรมที่ควบคุมมนุษย์ได้ นี้เป็นจุดเริ่มต้นให้เขาอ่านหนังสือแนวปรัชญา หนังสือประสบการณ์ชีวิตของนักเดินทางหรือนักคิด ซึ่งตัวอักษรในหนังสือสามารถสื่อสารกับเขาเข้าใจประหนึ่งว่าเจอเพื่อนคิดลักษณะเดียวกัน คริสจึงมีความคิดสุดโต่งในการออกเดินทางเข้าป่าหาธรรมชาติเพื่อหาคำตอบของความสุขในชีวิต

ระหว่างการเดินทางคริสสร้างชื่อขึ้นมาใหม่ว่า “ อเล็กซานเดอร์ ซูเปอร์แทรมป์ ” เขาได้พบผู้คนลักษณะแตกต่างกันไป คริสได้รับมุมมองใหม่กับประสบการณ์อันสวยงามและมัวหมองปะปนกันไป ไม่ว่าจะเป็นคู่สามีภรรยาเรนีย์กับแจน สำหรับคู่นี้คริสได้พบกับความรักของแม่ที่มีต่อลูกเพราะขณะที่เขาเดินทางออกมาคริสพบแต่กับความคิดเห็นของตนเองและหนังสือ เขายังไม่ได้พบกับความรู้สึกของผู้เป็นแม่ ซึ่งแจนก็สามารถถ่ายทอดถึงความเจ็บปวดที่ต้องแยกกับลูก หรือความคิดเห็นด้านสังคมและการเมืองกับชายหนุ่มชื่อเวย์นเจ้าของฟาร์ม รวมถึงความรักที่สวยงามจากหญิงสาววัย 16 และส่งท้ายด้วยชายชราชื่อว่า รอน แฟรนซ์ ผู้สูญเสียภรรยาและบุตร ผมประทับใจฉากคุยกันบนยอดเขาของคริสกับรอนมาก รอนรู้ว่าคริสต่อต้านเรื่องศาสนา นามธรรม และพ่อแม่ แต่รอนก็ได้บอกกับคริสถึงเรื่องการให้อภัย “ เมื่อเธอให้อภัย เธอก็จะรัก ”