ผลงานภาพยนต์จากค่าย ‘ไฟว์สตาร์ โปรดักชัน’ ของผู้กำกับ ‘ทิวา เมยไธสง’ ที่ผ่านการกำกับมาแล้วหลายเรื่องอย่าง ‘ผีช่องแอร์‘ (2005) ‘เชือดก่อนชิม‘ (2009) ‘วงจรปิด‘ (มรดกผี) (2012) ‘เกมปลุกผี‘ (2014) จะมีก็เพียงแต่ ‘รักเอาอยู่‘ (2012) ที่แหวกแนวเป็นหนังรักโรแมนติกคอมเมดี้ และผลงานใหม่ล่าสุดอย่าง ‘โกงพลิกเกม’
เรื่องย่อ
ตี๋ (โต้ง พิทวัส), คิด (ทอม อิศรา), ตึก (ปอนด์ คุณพัทธ์) และ ซิม (ซิม คิวเท) เด็กติดเกม 4 คน ที่วันหนึ่งได้กลายเป็นลูกน้องคนสนิทของบอส แต่แล้ววันหนึ่ง บอส ได้เสียชีวิตอย่างกะทันหันในขณะที่ ตี๋ กำลังจะแจ้งข่าวร้ายนี้กับทุกคน แต่ คิด ก็ได้หยุดเขาเอาไว้ และผุดแผนการที่จะเปลี่ยนเกมชีวิตพวกเขาทั้ง 4 คนไปตลอดกาล พวกเขาจะเล่นเกมนี้ต่อไปอย่างไร? แผนการยึดเมืองและทำหน้าที่แทนบอสจะลุล่วงหรือไม่?
ตัวอย่าง

‘โกงพลิกเกม’ เป็นเรื่องราวของแก๊งเพื่อนติดเกม ‘ตี๋’ (โต้ง Twopee), ‘คิด’ (ทอม อิศรา), ‘ตึก’ (ปอนด์ คุณพัทธ์) และ ‘ซิม’ (ซิม คิวเท) ที่อยู่ดี ๆ ต้องกลายมาเป็นลูกน้องคนสนิทของ ‘บอส’ นายใหญ่ประจำเมืองสมมติ ที่ภายในเมืองนั้นมีกลุ่มแก๊งมากมายอาศัยอยู่ โดยแต่ละแก๊งต่างก็ยึดครองและทำธุรกิจมืดแตกต่างกันไป พร้อม ๆ กับการหวังจะแย่งชิงพื้นที่หากิน โดยแก๊งวัยรุ่นทั้ง 4 ต้องออกตระเวน ‘เก็บเหรียญ’ หรือเก็บเงินค่าคุ้มครองจากทุกแก๊ง

จนกระทั่งวันหนึ่ง บอสเกิดเสียชีวิตกะทันหัน คิด หัวสมองของแก๊งจึงได้เริ่มต้นคิดวางแผนยึดเมือง และใช้ ‘เกม’ ในการเปลี่ยนแปลงระบบที่เคยเป็นมาแต่เดิม พร้อมกับสวมรอยทำหน้าที่แทนบอสเสียเอง พร้อม ๆ กับการที่ตี๋กำลังจะมี ‘รักต้องห้าม’ ซึ่งอาจนำพาเขาและเพื่อนไปเผชิญกับอันตรายมากมาย รวมถึงการกลับมาของ ‘จอห์นนี่’ (เดย์ ไทเทเนียม) ขาใหญ่อีกคนที่ต้องการกลับมาประกาศศักดาอีกครั้งหลังจากพ้นคุก

แค่อ่านพล็อตก็พอเดาออกแล้วใช่มั้ยครับว่าจริง ๆ แล้ว นี่คือพล็อตหนังเจ้าพ่อ หรือที่เรียกว่าหนังแก๊งสเตอร์นั่นเองครับ เรียกได้ว่ามีกลิ่นอายหนังเจ้าพ่อฮ่องกงยุค 80’s อะไรแบบนั้นเลย โดยเฉพาะพอยต์หลักของหนังแก๊งสเตอร์ที่พระเอกต้องหลุดเข้าไปอยู่ในอิทธิพลมืด มีความรักต้องห้ามกับหญิงสาวที่อยู่เหนือกว่าตน และการแย่งชิงอำนาจ แย่งชิงทรัพยากรทำมาหากิน แต่จะบอกว่าหนังเรื่องนี้เอาพล็อตหนังเจ้าพ่อมาใช้เลยก็ไม่ขนาดนั้น ด้วยการปรุงแต่งบทและวิธีการนำเสนอ ทำให้หนังเรื่องนี้มีความเป็นแก๊งสเตอร์ยุคใหม่ ภายใต้บทหนังเจ้าพ่อแบบดั้งเดิม

หนังเรื่องนี้มีจุดเด่นที่น่าสนใจก็คืองานด้านภาพครับ ทั้ง กราฟิกซีจีต่าง ๆ รวมถึงการออกแบบภาพ มุมกล้อง การวางองค์ประกอบภาพ การครีเอตภาพแนวทางใหม่ ๆ ที่บ้าพลังและทำออกมาได้ดี รวมถึงฉากลองเทกที่ดูแปลกใหม่ อาจจะเพราะว่าผู้กำกับเองก็มีเครดิตในฐานะผู้ที่คลุกคลีกับงานด้านภาพของภาพยนตร์ไทยมาแล้วหลายเรื่อง หนังเรื่องนี้จึงถือว่าเป็นการปล่อยของที่หวือหวาน่าสนใจดีไม่ใช่น้อย
